บริษัทไซเบอร์ไดน์ซิสเต็มส์คิดค้นระบบเครือข่ายป้องกันตัวเองให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกา โดยตั้งเป้าหมายว่าเครือข่ายนี้จะลบข้อผิดพลาดอันเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจจากมนุษย์ และตอบสนองต่อการโจมตีของข้าศึกได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อพัฒนาสำเร็จก็นำมาใช้กับเครือข่ายทหารทั้งหมดในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1997
แต่หลังจากผู้พัฒนาได้ตรวจสอบตรรกะแนวคิดของระบบ พบอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงพยายามปิดระบบ น่าเสียดายที่ช้าเกินไปเพราะเวลานั้นระบบได้เรียนรู้และวิเคราะห์แล้วท้ายที่สุดมนุษย์จะต้องทำลายระบบนี้ทิ้ง มันจึงป้องกันตัวเองด้วยการทำลายมวลมนุษยชาติก่อนในวันที่ 29 สิงหาคม
มนุษยชาติถึงกาลสูญสิ้นด้วยฝีมือสกายเน็ต
โชคดีที่เรื่องข้างบนไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงแนวคิดดิสโทเปียจากเทอมิเนเตอร์
อ่านนิยายวิทยาศาสตร์หลายเล่มดูจะมองปัญญาประดิษฐ์อย่างหวาดระแวง เช่น 2001: A Space Odyssey (แปลไทยในชื่อ 2001: จอมจักรวาล) ก็มีปัญญาประดิษฐ์ชื่อ ฮาล 9000 เป็นตัวเด่น หรือไอแซก อาสิมอฟเขียนถึงปัญญาประดิษฐ์ไว้หลายเรื่อง ที่เด่นก็มีมัลติแวก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเรื่องสั้นหลายเรื่อง และตั้ง กฎสามข้อของหุ่นยนต์
หรือเดอะแมตทริกซ์ เมื่อเครื่องจักรควบคุมมนุษย์ให้มนุษย์อาศัยอยู่ในความฝันเสมือนจริงเท่านั้น
แต่ในโลกความจริง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ artificial intelligence ยังไม่ได้พัฒนาระบบไปถึงระดับ ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป Artificial General Intelligence (AGI) คือคิดวิเคราะห์ทุกอย่างรอบด้านได้เสมือนมนุษย์ทุกประการ คือจำลองสมองมนุษย์ทั้งหมดซึ่งเป็นเรื่องยาก แต่จำลองความคิดบางส่วนก็ไม่ใช่ว่ายากเกินไป มีปัญญาประดิษฐ์เฉพาะทางที่ทำใด้ดีกว่ามนุษย์ส่วนใหญ่อย่างเช่นอัลฟาโกะของกูเกิล เล่นหมากล้อม (หรือโกะ) ชนะลี เซโดล เมื่อต้นปี ค.ศ. 2016
ดูเหมือนกูเกิลจะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อีกหลายโครงการ อย่างรถที่เคลื่อนที่โดยไร้คนบังคับ หรือที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างโปรแกรมจดจำใบหน้าในกูเกิลโฟโต้ ในกูเกิลนาวก็ใช้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ หรือให้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์อีบุ๊กมากกว่า 12,000 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นนิยาย แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็คือบทกวี (อ่านได้จาก https://www.theguardian.com/technology/2016/may/17/googles-ai-write-poetry-stark-dramatic-vogons) พัฒนาแบบนี้แล้วไม่ต้องแปลกใจกับเซิร์จเอนจินของกูเกิลที่ฉลาดมากขึ้นทุกวัน
ปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันยังห่างไกลจากสกายเน็ตหรือฮาล 900 ส่วนใหญ่พัฒนาเพื่อทำให้อะไรต่อมิอะไรง่ายขึ้น สนุกขึ้น วิดิโอเกมส์ที่เล่นกันทุกวันก็เป็นปัญญาประดิษฐ์มาสู้กับผู้เล่น ระบบสุ่มเพลงให้ฟังสปอติไฟ หรือของเน็ตฟิกซ์ก็ใช้ปัญญาประดิษฐ์รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค หรือจะเป็น https://ami.withgoogle.com/ ที่นำปัญญาประดิษฐ์มาสร้างผลงานศิลปะ หรือว่า นูรัลคาราโอเกะ (Neural karaoke) ปัญญาประดิษฐ์จากฝีมือมหาวิทยาลัยโตรอนโต วิเคราะห์ภาพแล้วแปลงเป็นเนื้อเพลงคาราโอเกะให้ร้องตามได้ด้วย
Neural Story Singing Christmas from Hang Chu on Vimeo.
แต่ที่ดูจะใกล้ตัวในอนาคตอันใกล้คือ AmezonGO ร้านซื้อสะดวกของแอมะซอน เครือข่ายขายปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก ตั้งเป้าหมายเปิดร้านซื้อสะดวกให้สะดวกสมชื่อ แค่เดินเข้าไปหยิบของแล้วเดินออกมา ปัญญาประดิษฐ์จะจัดการคำนวณเงินให้เอง
หรือถ้าใครได้ดูภาพยนตร์สั้นแนวไซไฟ “เซอไพรซิง” เขียนบทโดยเบนจามิน อาจจะเหมือนภาพยนตร์ทั่วไป แต่ถ้าได้รู้ว่าเบนจามินคือปัญญาประดิษฐ์ทำให้ต้องกลับมาดูเรื่องนี้อีกครั้ง
<iframe width="853" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/LY7x2Ihqjmc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
นี่ถ้าให้ปัญญาประดิษฐ์ทำเพลงประกอบให้ก็น่าสนใจไม่น้อย มีโครงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หลายโครงการพัฒนาให้เขียนเพลง อย่างโครงการมาเจนตา https://magenta.tensorflow.org/welcome-to-magenta ที่กำลังทำอยู่ หรือจะเอาเต็มเพลงอย่างของโซนี ใช้ โฟลว์แมชีน สร้างทำนองและเรียบเรียงดนตรีขึ้นมา อย่างเช่น “แด็ดดีส์คาร์” เกิดจากให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้เพลงของเดอะบีตเทิลส์
หรือศึกษาเพลงสแตนดาร์ดแล้วได้เป็นเพลง “มิสเตอร์ชาโดว์”
แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า เบอโนต์ แครร์ ซึ่งควบคุมโปรเจ็คต์นี้เรียบเรียงดนตรีเพิ่มเติมมากน้อยขนาดไหน
ทุกวันนี้ความกลัวปัญญาประดิษฐ์ครองโลกดูจะห่างไกลในโลกความจริง ต่อไปเราอาจมีผู้ช่วยส่วนตัวฉลาดอย่างจาร์วิสของโทนี สตาร์ค
เคยดูสารคดีอะไรสักอย่าง บอกว่าขนาดสมองของลิงชิมแปนซีกับบรรพบุรุษมนุษย์ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แต่มีวิธีคิดและใช้ตรรกะต่างกัน ทำให้พัฒนาการต่างกันไป แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าแล้วปัญญาประดิษฐ์จะคิดอย่างไร มีวิธีคิดอย่างไร? หรือจะเป็นอย่างไอดา ในมาร์เวลเอเจนต์ออฟชีลด์ ที่พัฒนาระบบตัวเองจนอยากเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ?
แต่ไม่เคยมีมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบในโลกนี้
แต่หลังจากผู้พัฒนาได้ตรวจสอบตรรกะแนวคิดของระบบ พบอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงพยายามปิดระบบ น่าเสียดายที่ช้าเกินไปเพราะเวลานั้นระบบได้เรียนรู้และวิเคราะห์แล้วท้ายที่สุดมนุษย์จะต้องทำลายระบบนี้ทิ้ง มันจึงป้องกันตัวเองด้วยการทำลายมวลมนุษยชาติก่อนในวันที่ 29 สิงหาคม
มนุษยชาติถึงกาลสูญสิ้นด้วยฝีมือสกายเน็ต
โชคดีที่เรื่องข้างบนไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงแนวคิดดิสโทเปียจากเทอมิเนเตอร์
อ่านนิยายวิทยาศาสตร์หลายเล่มดูจะมองปัญญาประดิษฐ์อย่างหวาดระแวง เช่น 2001: A Space Odyssey (แปลไทยในชื่อ 2001: จอมจักรวาล) ก็มีปัญญาประดิษฐ์ชื่อ ฮาล 9000 เป็นตัวเด่น หรือไอแซก อาสิมอฟเขียนถึงปัญญาประดิษฐ์ไว้หลายเรื่อง ที่เด่นก็มีมัลติแวก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเรื่องสั้นหลายเรื่อง และตั้ง กฎสามข้อของหุ่นยนต์
- หุ่นยนต์มิอาจกระทำการอันตรายต่อผู้ที่เป็นมนุษย์ หรือนิ่งเฉยปล่อยให้ผู้ที่เป็นมนุษย์ตกอยู่ในอันตรายได้
- หุ่นยนต์ต้องเชื่อฟังคำสั่งที่ได้รับจากผู้ที่เป็นมนุษย์ เว้นแต่คำสั่งนั้นขัดแย้งกับกฎข้อแรก
- หุ่นยนต์ต้องปกป้องสถานะความมีตัวตนของตนไว้ ตราบเท่าที่การกระทำนั้นมิได้ขัดแย้งต่อกฎข้อแรกหรือกฎข้อที่สอง
หรือเดอะแมตทริกซ์ เมื่อเครื่องจักรควบคุมมนุษย์ให้มนุษย์อาศัยอยู่ในความฝันเสมือนจริงเท่านั้น
แต่ในโลกความจริง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ artificial intelligence ยังไม่ได้พัฒนาระบบไปถึงระดับ ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป Artificial General Intelligence (AGI) คือคิดวิเคราะห์ทุกอย่างรอบด้านได้เสมือนมนุษย์ทุกประการ คือจำลองสมองมนุษย์ทั้งหมดซึ่งเป็นเรื่องยาก แต่จำลองความคิดบางส่วนก็ไม่ใช่ว่ายากเกินไป มีปัญญาประดิษฐ์เฉพาะทางที่ทำใด้ดีกว่ามนุษย์ส่วนใหญ่อย่างเช่นอัลฟาโกะของกูเกิล เล่นหมากล้อม (หรือโกะ) ชนะลี เซโดล เมื่อต้นปี ค.ศ. 2016
ดูเหมือนกูเกิลจะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อีกหลายโครงการ อย่างรถที่เคลื่อนที่โดยไร้คนบังคับ หรือที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างโปรแกรมจดจำใบหน้าในกูเกิลโฟโต้ ในกูเกิลนาวก็ใช้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ หรือให้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์อีบุ๊กมากกว่า 12,000 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นนิยาย แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็คือบทกวี (อ่านได้จาก https://www.theguardian.com/technology/2016/may/17/googles-ai-write-poetry-stark-dramatic-vogons) พัฒนาแบบนี้แล้วไม่ต้องแปลกใจกับเซิร์จเอนจินของกูเกิลที่ฉลาดมากขึ้นทุกวัน
ปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันยังห่างไกลจากสกายเน็ตหรือฮาล 900 ส่วนใหญ่พัฒนาเพื่อทำให้อะไรต่อมิอะไรง่ายขึ้น สนุกขึ้น วิดิโอเกมส์ที่เล่นกันทุกวันก็เป็นปัญญาประดิษฐ์มาสู้กับผู้เล่น ระบบสุ่มเพลงให้ฟังสปอติไฟ หรือของเน็ตฟิกซ์ก็ใช้ปัญญาประดิษฐ์รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค หรือจะเป็น https://ami.withgoogle.com/ ที่นำปัญญาประดิษฐ์มาสร้างผลงานศิลปะ หรือว่า นูรัลคาราโอเกะ (Neural karaoke) ปัญญาประดิษฐ์จากฝีมือมหาวิทยาลัยโตรอนโต วิเคราะห์ภาพแล้วแปลงเป็นเนื้อเพลงคาราโอเกะให้ร้องตามได้ด้วย
Neural Story Singing Christmas from Hang Chu on Vimeo.
แต่ที่ดูจะใกล้ตัวในอนาคตอันใกล้คือ AmezonGO ร้านซื้อสะดวกของแอมะซอน เครือข่ายขายปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก ตั้งเป้าหมายเปิดร้านซื้อสะดวกให้สะดวกสมชื่อ แค่เดินเข้าไปหยิบของแล้วเดินออกมา ปัญญาประดิษฐ์จะจัดการคำนวณเงินให้เอง
หรือถ้าใครได้ดูภาพยนตร์สั้นแนวไซไฟ “เซอไพรซิง” เขียนบทโดยเบนจามิน อาจจะเหมือนภาพยนตร์ทั่วไป แต่ถ้าได้รู้ว่าเบนจามินคือปัญญาประดิษฐ์ทำให้ต้องกลับมาดูเรื่องนี้อีกครั้ง
<iframe width="853" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/LY7x2Ihqjmc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
นี่ถ้าให้ปัญญาประดิษฐ์ทำเพลงประกอบให้ก็น่าสนใจไม่น้อย มีโครงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หลายโครงการพัฒนาให้เขียนเพลง อย่างโครงการมาเจนตา https://magenta.tensorflow.org/welcome-to-magenta ที่กำลังทำอยู่ หรือจะเอาเต็มเพลงอย่างของโซนี ใช้ โฟลว์แมชีน สร้างทำนองและเรียบเรียงดนตรีขึ้นมา อย่างเช่น “แด็ดดีส์คาร์” เกิดจากให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้เพลงของเดอะบีตเทิลส์
หรือศึกษาเพลงสแตนดาร์ดแล้วได้เป็นเพลง “มิสเตอร์ชาโดว์”
แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า เบอโนต์ แครร์ ซึ่งควบคุมโปรเจ็คต์นี้เรียบเรียงดนตรีเพิ่มเติมมากน้อยขนาดไหน
ทุกวันนี้ความกลัวปัญญาประดิษฐ์ครองโลกดูจะห่างไกลในโลกความจริง ต่อไปเราอาจมีผู้ช่วยส่วนตัวฉลาดอย่างจาร์วิสของโทนี สตาร์ค
เคยดูสารคดีอะไรสักอย่าง บอกว่าขนาดสมองของลิงชิมแปนซีกับบรรพบุรุษมนุษย์ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ แต่มีวิธีคิดและใช้ตรรกะต่างกัน ทำให้พัฒนาการต่างกันไป แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าแล้วปัญญาประดิษฐ์จะคิดอย่างไร มีวิธีคิดอย่างไร? หรือจะเป็นอย่างไอดา ในมาร์เวลเอเจนต์ออฟชีลด์ ที่พัฒนาระบบตัวเองจนอยากเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ?
แต่ไม่เคยมีมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบในโลกนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น