ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เคนดอลล์+ไคลี เอาปูชนียบุคคลในแวดวงดนตรีมาหากิน

มีกรณีน่าสนใจเกี่ยวกับการดำเนินการทางธุรกิจคาบเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์โดยคนดัง คือบริษัท เคนดอลล์+ไคลี ของสองพี่น้อง ไคลีย์และเคนดอลล์ เจนเนอร์ สองพี่น้องคนดังออกลายเสื้อยืดชุดใหม่มาขายโดยใช้ภาพของคนดังในแวดวงดนตรีเป็นพื้นแล้วมีภาพของพวกเธอทับอยู่อีกที ศิลปินที่โดนนำภาพมาใช้ก็มีวงดังเช่น เดอดอส์ พิงก์ฟรอยด์ ทูแพ็ก ออสซี ออสบอร์น คิส เมทัลลิกา เดอะนอสโทเรียสบิ๊ก แบล็กซับบาธ

ที่ว่าน่าสนใจคือ เพราะมองได้สองแง่ มันเป็นวัฒนธรรมป็อป เป็นป็อปอาร์ต หรืออีกแง่หนึ่งคืออาศัยชื่อเสียงคนอื่นหากินอย่างหน้าด้านหน้าทนคนอะไร ยิ่งในชาติตะวันตกที่รักษาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลักก็น่าจะคำนึงได้ว่าน่าจะมีปัญหาทางกฎหมายตามมา และไคลีน่าจะรู้ดีเป็นพิเศษเพราะก่อนหน้านี้ไม่นานเสื้อของเธอก็โดนกล่าวหาว่าลอกการออกแบบของยี่ห้อ ปลั๊กเจ็ดเอ็นวายซี (Pluggednyc) และมีหลักฐานว่าเธอเคยซื้อลายคาโมที่เอามาใช้นี้ด้วย


และก็มีตามมาอย่างที่คิด เช่นโวเลตตา วอลเลนซ์ มารดาของนอสโทเรียสบิ๊ก ลงอินสตาแกรมว่า “ฉันไม่แน่ใจว่าใครบอกไคลีเจนเนอร์กับเคนดอลล์เจนเนอร์ ว่าพวกเธอมีสิทธิทำแบบนี้ สิ่งที่พวกสาว ๆ นี้ทำอย่างไร้ความเคารพนี้ไม่แม้แต่จะพยายามติดต่อกับฉันหรือตัวแทน ฉันคิดไม่ออกเลยว่าทำไมพวกเธอรู้สึกว่าควรเอาความตายของทูแพ็กและคริสโตเฟอร์มาขายเสื้อยืด นี่มันไร้ความเคารพ น่าขยะแขยง และแสวงหาผลประโยชน์ที่แย่ที่สุด”

ตอนนี้เธอให้ทนายจัดการแล้ว

ส่วนชารอน ออสบอร์น ซึ่งภาพใบหน้าออสซีสามีของเธอก็โดนนำไปใช้ก็ทวีตข้อความว่า “สาว ๆ จ๊ะ เธอไม่มีสิทธิเอาหน้าของเธอมาทับปูชนียบุคคลทางดนตรีนะจ๊ะ อยู่กับสิ่งที่หนูรู้จักสิจ๊ะ ลิปกรอสไง”


ส่วนเดอะดอส์ที่โดนนำภาพไปใช้เช่นกันก็ให้ตัวแทนทางกฎหมายส่งจดหมายเตือนสองพี่น้องอย่างเป็นทางการ

“เดอะดอส์ได้รับรู้เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเคนดอลล์+ไคลีย์กำลังขายเสื้อโดยใช้ทรัพย์สินที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือความยินยอมจากเดอะดอส์ การใช้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในการพาณิชย์อาจทำให้เกิดความสับสนผิดพลาดหรือหลอกลวงผู้บริโภคให้เชื่อว่าเสื้อผ้าของเคนดอลล์+ไคลีย์ได้รับอนุญาตจากเดอะดอส์ ทั้งที่ไม่มีการอนุมัติวหรือร้องขอเดอะดอส์”

ไมเคิล มิลเลอร์ ช่างภาพผู้ถ่ายภาพทูแพ็กยื่นฟ้องเรียบร้อย โดยชี้ว่าสองพี่น้องตั้งใจหาประโยชน์จากภาพถ่ายของเขาโดยไม่รับอนุญาต เรียกค่าเสียหายภาพละ 150,000 ดอลลาร์

เรื่องนี้ไคลีขอโทษง่าย ๆ ว่าทำไปเพราะชอบและยุติการจำหน่ายแล้ว (คงกลัวโดนฟ้องมากกว่าเพราะถ้านึกถึงชื่อเสียงแต่ละคนน่าจะเรียกเงินได้ไม่น้อย)


ดูเหมือนว่าเธอจะโบ้ยไปให้บริษัทรับผิดชอบ ซึ่งทางบริษัทออกมาโต้ว่าไม่ได้ลอกเลียนหรือละเมิดลิขสิทธิ์ในรูปแต่อย่างใด

ลองนึกถึงกรณีนี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง ถ้าไม่ใช่สองพี่น้องเจนเนอร์ แต่เป็นศิลปินใหญ่อย่าง แอนดี วอฮอลล์ ซึ่งเคยนำภาพคนดังเช่น เอลวิส เพรสลีย์ มาริลีน มอนโร โคคาโคลา มาใช้ หรืออย่างที่เคยเขียนไปแล้วคือ ริชาร์ด พรินซ์ ที่นำภาพของคนอื่นมาทำซ้ำ

คำว่า “ศิลปินขอยืม แต่ศิลปินใหญ่ขโมย” เป็นวาทะอันโด่งดัง (ของใครก็มิรู้) ทุกคนล้วนรู้ดีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาจากอากาศ การคิดอะไรได้แต่ละอย่างขึ้นการความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ ทักษะ และอีกหลายอย่างหล่อหลอมเกิดขึ้น ดังนั้นการหยิบยืมหรือได้แรงบันดาลใจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

ย้อนกลับมามองกรณี ไคลี + เคนดอลล์ กรณีเราจะถือว่าเป็นงานศิลปะหรือไม่? เข้าใจว่าส่วนใหญ่จะไม่คิดแบบนั้น เห็นว่าเป็นแค่การนำภาพของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่มาใช้ แถมยังเอาตัวเองไปทับอีกที มันออกจะไม่เคารพความเป็นตัวตนของศิลปินที่โดนนำมาใช้ งานนี้สองพี่น้องเจนเนอร์จึงโดนรุมกระหน่ำจากรอบด้าน

บางทีหากการนำเสนอดีกว่านี้ คิดให้ถี่ถ้วนกว่านี้ ผลลัพธ์อาจจะออกมาต่างจากนี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

9/11

เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 มีเหตุการณ์ใหญ่สะเทือนโลกและคงไม่มีวันลืมเลือน เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินสี่ลำ บังคับให้สองลำบินชนตึกแฝดเวิรล์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ก อีกลำบินชนอาคารเพนตากอน (ที่ทำการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา) ในเวอร์จิเนีย ส่วนลำที่สี่ตกในรัฐเพนซิลเวนีย (คาดการว่าเป้าหมายคืออาคารรัฐสภาสหรัฐในวอชิงตันดีซี) เหตุการณ์นั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,000 คน เรียกสั้น ๆ ว่า 9/11 (เดือนเก้าวันที่สิบเอ็ด) และหลังจากนั้นโลกก็ไม่เหมือนเดิม

ภูเขาคืออะไร

จากหนังสือ "มนุษย์ต่างดาว ถวัลย์ ดัชนี" สมัยถวัลย์ ดัชนียังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยศิลปากร อาจารย์ศิลป์ พีระศรีนำลูกศิษย์จำนวนหนึ่งไปเรียนรู้ศิลปะที่จังหวัดเพชรบุรี

โยนีของอิการาชิ

เมกุมิ อิการาชิ ศิลปินสาวชาวญี่ปุ่นวัย 42 ทำงานภายใต้นามแฝงว่า โรกุเดะนาชิโกะ แปลเป็นภาษาไทยแบบไม่ถูกต้องนักน่าจะเป็น ลูกไม่มีพ่อ หรือ เด็กไม่มีคนสนใจ อะไรทำนองนั้น