ผมเป็นศิลปินไม่ใช่นักการเมือง เมื่อวิกฤติเรื่องชาวโปแลนด์จบสิ้นลง ผมอยากให้ชีวิตที่เหลือของผมจบลงในฐานะศิลปิน
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กล่าวกับเนวิล เฮนเดอร์สัน เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเยอรมนีเดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๙๓๙ (อ้างอิงนิตยสารไลฟ์ ฉบับ ๑๖ ตุลาคม ค.ศ. ๑๙๓๙) ก่อนเหตุการณ์เยอรมนีบุกยึดโปแลนด์ในวันที่ ๑ กันยายน ค.ศ. ๑๙๓๙ เนื่องจากโปแลนด์ไม่ยอมยกเมืองท่าดานซิกและฉนวนโปแลนด์ให้เยอรมนี เหตุการณ์นี้ทำให้อังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งทำสัญญาค้ำประกันเอกราชของโปแลนด์ได้ยื่นคำขาดให้เยอรมนีถอนทหารออกจากโปแลนด์แต่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ปฏิเสธ
วันที่ ๓ กันยายน ค.ศ. ๑๙๓๙ อังกฤษและฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับเยอรมนีการแบ่งกลุ่มของประเทศคู่สงคราม ฝ่ายอักษะ ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ฝ่ายพันธมิตรได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย และถือเป็นสงครามโลกครั้งที่ ๒ อย่างเป็นทางการ
อาจจะดีกว่า ถ้าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์เป็นศิลปินแทนที่จะเป็นนักการเมือง
ด้วยความลุ่มหลงในชนชาติอารยันบริสุทธิ์ เขาคิดจะทำความสะอาดวัฒนธรรมและศิลปะ ฟื้นฟูค่านิยมดั้งเดิมในวัฒนธรรมเยอรมัน เน้นความบริสุทธิ์ของเชื้อชาติ คตินิยม ผลงานศิลปะที่ไม่ใช่ของอารยัน หรือตัวศิลปินผู้สร้างสรรค์มีแนวคิดคัดค้านนาซีจะโดนเก็บผลงานไปทำลาย
แต่แล้วก็มีข่าวว่ามีการค้นพบภาพวาด ๑,๕๐๐ ชิ้น ที่พรรคนาซีเก็บงำเอาไว้ในช่วงทศวรรษ ๑๙๓๐ – ๑๙๔๐ ในมิวนิก ประเมินราคาเบื้องต้นคาดว่าไม่น้อยกว่าพันล้านยูโร และหลายภาพเป็นผลงานประเมินมูลค่าไม่ได้ ทั้งภาพของเฮนรี มาติสเส ปาโปล ปิกัสโซ พอล คลี ปีแอร์-ออกุสต์ เรอนัวร์ เฮนรี เดอ ทูลูส แม็ก เบ็คแมนน์ เออเนส ลุดวิก เคริชเนอร์ อ็อตโต ดิกซ์ และคนอื่นอีกมากมาย
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์เคยพยายามเป็นจิตรกร แต่เขาสอบเข้าเรียนที่สถาบันศิลปะกรุงเวียนนาไม่ได้ถึงสองครั้งสองครา ภาพเขียนของเขาส่วนใหญ่เป็นสถานที่ ตึกรามบ้านช่องขายสู่ผู้ซื้อนับพันภาพ และเมื่อเขาขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดก็ได้จัดแสดงผลงานภาพวาดในมิวนิกถึงสองครั้ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น